สังคมการเมืองกับปัญหาความเปลี่ยนแปลง
9.1
ภูมิหลังและความคิดของ*เบอร์ก
1. การปฏิวัติใหญ่ในฝรั่งเศส
การปฏิวัติใหญ่ในฝรั่งเศสใน ค.ศ.1789
มาจากความล้มเหลวของการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจอย่างเต็มที่และใช้อำนาจอย่างกว้างขวาง
และสถาบันรัฐสภาที่ประกอบด้วยชนชั้นสูงรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตน
ทำให้ชนชั้นกลางและชาวนาต่างแสวงหาทางออกด้วยการลุกฮือจลาจลนำมาสู่การโค่นล้มการปกครองเพื่อสร้างระบบการเมืองใหม่ที่ให้เสรีภาพกับประชาชน
และพระมหากษัตริย์กลายเป็นนักโทษมวลชนเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นส่วนสำคัญที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเบอร์กในเวลาต่อมา
2. แนวความคิดทางการเมืองของนักปฏิวัติในฝรั่งเศส
ทฤษฎีที่เป็นแรงผลักดันการปฏิวัติในฝรั่งเศสก็คือทฤษฎีสิทธิตามธรรมชาติ
ซึงแถลงว่ามนุษย์อยู่ในฐานะเป็นมนุษย์ มีสิทธิบางอย่างอยู่แล้ว สิทธินี้มีอะไรบ้าง
สามารถเข้าใจได้ด้วยเหตุผล รัฐบาลที่ชอบธรรมต้องเคารพสิทธิเหล่านี้
3. ชีวิตและผลงานของเบอร์ก
เบอร์กเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษมีทัศนะ
คติในทางลบต่อการปฏิวัติใหญ่ในฝรั่งเศส
โดยได้เขียนหนังสือโจมตีการปฏิวัติฝรั่งเศสเพื่อชี้ให้เห็นว่าการปฏิวัติครั้งนี้เดินตามแนวความคิดที่ผิดและย่อมนำไปสู่หายนะในที่สุดจุดมุ่งหมายของเบอร์กก็เพื่อจูงใจผู้อ่านมิให้เห็นด้วยกับทฤษฎีของนักปฏิวัติ
เพราะเบอร์กกลัวว่าถ้ามีผู้เชื่อถือในทฤษฎีเช่นนี้อาจจะมีการนำทฤษฎีเช่นนี้ไปอ้างเพื่อกระตุ้นให้มีการปฏิวัติในอังกฤษ
1. ลักษณะสังคมการเมืองที่ให้ความเป็นธรรม
แก่นกลางของทฤษฎีการเมืองของเบอร์ก คือ ทรรศนะเกี่ยวกับสังคมการเมือง
และมีการโต้แย้งแนวคิดของนักปรัชญากลุ่มที่ประชาชนมีสิทธิล้มล้างอำนาจของรัฐบาลในกรณีที่ขาดความชอบธรรมในการปกครองและเห็นว่าอำนาจที่ชอบธรรม ต้องมาจากประชาชน
เบอร์กโต้แย้งแนวคิดของนักปฏิวัติโดยให้เหตุผลเป็นสองแนวทาง
แนวทางแรก
คือการชี้ให้เห็นถึงระบบการเมืองในอังกฤษและฝรั่งเศสชอบธรรมอยู่แล้ว
การที่นักปฏิวัติอ้างถึงระบบอีกอย่างหนึ่งที่เป็นรูปแบบที่ชอบธรรมแล้วเป็นการอ้างที่เลื่อนลอย
แนวทางที่สอง
จริงอยู่ระบบการเมืองอังกฤษและฝรั่งเศสมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง
แต่การเปลี่ยนแปลงโดยเป็นการโค่นล้มระบบเก่าและสร้างระบบใหม่ขึ้นแทนนั้นไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
จะนำไปสู่
ระบบที่เลวร้ายกว่าเดิม
2. สิทธิและเสรีภาพ
ในทรรศนะของเบอร์ก
สิทธิเสรีภาพทางการเมืองมีรากฐานมาจากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองมิได้มาจากสิทธิเสรีภาพตามธรรมชาติ
สิทธิเสรีภาพเหล่านี้รวบรวมไว้ในกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ
ซึ่งเป็นสิ่งทีได้รับจากระบบการเมืองในฐานะพลเมืองไม่ได้เป็นสิ่งทีมีอยู่แล้วก่อนมีสังคมการเมือง
3. เหตุผลและอคติ
เบอร์กให้ความสำคัญกับอคติในการฐานะของการเป็นเหตุผลส่วนรวมอันเป็นสมบัติของชาติที่สืบเนื่องต่อกันมาหลายยุคสมัย
และเหตุผลส่วนรวมเป็นผลรวมของการใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาของการเมืองที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผล
ยึดถือสืบทอดกันมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ผลรวมนี้ปรากฏอยู่ในกฎหมายทั้งหลายในตัวรัฐธรรมนูญ
เบอร์กไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงธรรมเนียมการก้ปัญหาที่มีมาแต่เดิม
การสนับสนุนอคติของเบอร์กจึงไม่ได้เป็นการละทิ้งเหตุผล
แต่เป็นการสนับสนุนให้ยึดถือธรรมเนียมเดิมในการแก้ปัญหาทางการเมืองซึ่งเป็นการใช้หุผลของคนจำนวนหนึ่ง
9.3
ทรรศนะของเบอร์กเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสังคมการเมือง
1. ผลของความหายนะของการปฏิวัติ
ผลของความหายนะของการปฏิวัติ เป็นการทำลายระบบเก่าที่ประกอบด้วยธรรมเนียมเดิม
ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการปัญหาทางการเมือง
ทำให้ขาดแนวทางที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาการเมืองที่นำไปสู่ความจลาจลวุ่นวาย
2. การใช้หลักการแบบนามธรรม
หลักการของนักปฏิวัติไม่อาจใช้เป็นแนวทางแทนระบบเก่าที่ถูกทำลายไปได้
เพราะหลักการนามธรรมซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงไม่อาจนำมาใช้ในสภาพการณ์ที่เป็นจริงที่มีความสลับซับซ้อนได้
หลักการนามธรรมที่ว่านี้ เป็นผลมาจากการใช้ เหตุผลที่ไม่ถูกต้อง
ไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริงหรือธรรมเนียมเดิม ดังนั้นหลักการเช่นนี้ย่อมเป็นหลักการที่ห่างไกลจากความเป็นจริง
ไม่อาจนำมาใช้กับสภาพที่เป็นจริงได้
การปฏิวัติล้มล้างระบบเก่าเช่นการปฏิวัติในฝรั่งเศสใช้หลักการเช่นนี้เป็นแนวทาง
ย่อมนำมาสู่การปฏิวัติที่ไม่เป็นไปตามอุดมคติ
ในเมื่อแนวทางเก่าถูกทำลายและแนวทางใหม่ไม่อาจนำมาสู่ใช้ปฏิบัติให้ได้ผล ตามที่ต้องการ
ความจลาจลวุ่นวายย่อมเกิดขึ้น
โดยมีความหายนะเป็นผลสุดท้าย
3. แนวทางที่ถูกต้องในการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
แนวทางที่ถูกต้องในการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในทรรศนะของเบอร์ก คือ
การปฏิรูปหรือการปรับปรุงให้ดีขึ้นย่อมเกิดขึ้นในสังคมที่มีมานานแล้ว
ตราบใดที่การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงนั้นยึดโครงสร้างหลักของระบบเก่าเป็นพื้นฐานเบอร์กไม่ได้เชื่อว่าสังคมการเมืองที่มีมานานแล้วมีความสมบูรณ์แบบ
เขาเพียงแต่เชื่อว่าระบบเก่ามีโครงสร้างหลักที่ดีอยู่แล้ว แต่กลไกปลีกย่อยในระบบ
9.4
ประเมินคุณค่าของทฤษฎีอนุรักษ์นิยมของเบอร์ก
1.
อิทธิพลของเบอร์กที่มีต่อนักปรัชญาอนุรักษนิยมรุ่นหลัง
อิทธิพลและทรรศนะของเบอร์กต่ออนุรักษนิยมสมัยหลัง คือ (1) ทรรศนะของเขาที่มีความเชื่อว่าสถาบันที่ก่อตั้งมานาน
ย่อมมีคุณค่าควรแก่การรักษาเอาไว้ ไม่ควรมีการล้มล้างระบบเก่าแต่ควรมีการปรับปรุงกลไกในระบบเก่าให้มีความเหมาะสม
(2) ทรรศนะหรือความคิดที่ว่าการเมืองการปกครองเป็นศาสตร์แห่งการปฏิบัติ ไม่ใช้ศาสตร์ที่อาศัยหลักการนามธรรมจึงต้องอาศัยประสบการณ์ที่สะสมมายาวนานเท่ากับเป็นการเน้นความสำคัญของสถาบันที่มีมานาน ปรับปรุงแก้ไขตัวเองโดยอาศัยประสบการณ์และการทดลอง
(2) ทรรศนะหรือความคิดที่ว่าการเมืองการปกครองเป็นศาสตร์แห่งการปฏิบัติ ไม่ใช้ศาสตร์ที่อาศัยหลักการนามธรรมจึงต้องอาศัยประสบการณ์ที่สะสมมายาวนานเท่ากับเป็นการเน้นความสำคัญของสถาบันที่มีมานาน ปรับปรุงแก้ไขตัวเองโดยอาศัยประสบการณ์และการทดลอง
2. ข้อดีและข้อบกพร่องของทรรศนะของเบอร์ก
ข้อดี ของทรรศนะของเบอร์กก็คือการท้าทายทฤษฎีสิทธิตามธรรมชาติ
ซึ่งเป็นที่ยอมรับมานานโดยปราศจากการอ้างเหตุผลสนับสนุนที่เพียงพอ
ข้อบกพร่องที่สำคัญ คือ
ความเข้าใจผิดที่คิดว่าการใช้หลักการนามธรรมกับการใช้หลักการเชิงปฏิบัติเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม
3. ความคงเส้นคงวาของทรรศนะของเบอร์ก
ทรรศนะของเบอร์กต่อการจัดการกับความเปลี่ยนแปลง
คือ การประนีประนอม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมซึ่งล้วนแล้วเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม
เช่น กรณีการเรียกร้องของชาวอเมริกันในขณะเป็นอาณานิคมต่ออังกฤษ
แต่รัฐสภาอังกฤษไม่มีการประนีประนอมทำให้ชาวอเมริกันต่อสู้เพื่อแยกตัวเป็นเอกราช
4. อนุรักษนิยมกับประชาธิปไตย
ทรรศนะของเบอร์กมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางทฤษฎีการเมืองในปัจจุบัน
ถึงแม้เบอร์กจะตั้งใจที่จะวิเคราะห์วิจารณ์เหตุการณ์ในสมัยของเขา
แต่ตราบเท่าที่เบอร์กวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับว่า
สังคมการเองควรยึดถือธรรมเนียมเดิมหรือยึดถืออุดมคติทางการเมือง
สิทธิเสรีภาพของมนุษย์ควรมีรากฐานอยู่บนหลักการใด การเปลี่ยนแปลงสังคมกากรเมืองควรดำเนินการอย่างไร
ปันเป็นปัญหาสากลที่ในปัจจุบันยังคงถกเถียงกันอยู่
ตราบนั้นทรรศนะของเบอร์กยังคงควรค่ากับการศึกษา
*เอ็ดมัน เบอร์ก (ค.ศ. 1729-1797) นักปรัชญาการเมืองชาวอังกฤษ เคยศึกษาวิชากฎหมาย
ภายหลังเป็นสมาชิกรัฐสภาในระหว่าง ค.ศ. 1766-1794 มีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม
ทำให้ต่อต้านนโยบายของอังกฤษต่ออาณานิคมที่ใช้ความรุนแรง
เพื่อรักษาความเป็นจักรวรรดินิยมของอังกฤษ ต่อต้านการปฏิวัติในฝรั่งเศส
เพื่อล้มล้างระบอบเก่า เป็นต้น
*ข้อคิดเกี่ยวกับการปฏิวัติในฝรั่งเศส (Reflections on the
Revolution in France )
หรือ Reflections เป็นชื่อหนังสือที่เอ็ดมัน เบอร์ก
เป็นผู้แต่งและตีพิมพ์ใน ค.ศ. 1790 มีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ
การต่อต้านการปฏิวัติในฝรั่งเศส
และป้องกันมิให้เกิดการฏิวัติในอังกฤษเหมือนฝรั่งเศส
เป็นหนังสือที่แสดงถึงแนวคิดแบบอนุรักษนิยมของผู้แต่งเป็นอย่างดี
*การปฏิวัติในฝรั่งเศส เกิดขึ้น
ใน ค.ศ. 1789 มีสาเหตุมาจากสภาพการเมือง เศรษฐกิจ
และสังคมที่ตกต่ำย่ำแย่ทำให้กษัตริย์กับขุนนางต่างกดขี่ราษฎรในยามฝืดเคือง
นำมาสู่การลุกฮือของราษฎร
และเป็นที่มาของการใช้ความรุนแรงกลายเป็นการปฏิวัติเพื่อล้มล้าง และทำลายระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อันเป็นระบอบเก่าที่ประกอบด้วยกษัตริย์กับขุนนางเป็นส่วนสำคัญ
*ทฤษฎีสิทธิตามธรรมชาติ เป็นทฤษฎีที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ในฐานะที่เป็นตัวมนุษย์
มีสิทธิบางประการ การพิจารณาสิทธิเหล่านี้สมารถเข้าใจได้ด้วยเหตุผล
รัฐบาลที่มีความชอบธรรมต้องเคารพในสิทธิเหล่านี้
และทฤษฎีสิทธิตามธรรมชาตินับแรงผลักดันที่สำคัญที่ทำให้เกิดการปฏิวัติในฝรั่งเศส
ใน ค.ศ. 1789
*ลักษณะสังคมการเมืองที่ให้ความเป็นธรรม หรือลักษณะสังคมการเมืองที่ชอบธรรม
ประกอบด้วยกฎหมายที่ใช้สืบทอดมาและพิสูจน์ว่าสร้างความยุติธรรมในสังคม ย่อมเป็นกฎหมายที่ดี
เช่น กฎมายรัฐธรรมนูญ และมีผลต่อสถาบันทาการปกครองและผู้ปกครอง เช่น
กษัตริย์ที่ขึ้นครองราชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์จึงเป็นกษัตริย์ที่มีความชอบธรรม
เป็นต้น
*สิทธิและเสรีภาพ ในทรรศนะของเบอร์กเห็นว่า
สิทธิเสรีภาพทางการเมืองจึงเป็นผลผลิตของของธรรมเนียม
หากต้องการรู้สิทธิเสรีภาพทางการเมืองเป็นอย่างไรต้องพิจารณาจากตัวบทกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ
ไม่ใช้ไปอ้างสิทธิเสรีภาพตามธรรมชาติ
เพราะสิทธิทางการเมืองไม่ได้มีรากฐานบนสิทธิตามธรรมชาติ
และไม่อาจมีรากฐานบนสิทธิเช่นนั้นได้
*เหตุผลและอคติ เบอร์กให้ความสำคัญกับอคติในการจัดระบบสังคมการเมือง
เพราะอคติที่สำคัญ เช่น การเคารพนับถือ ความยำเกรงที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ รัฐสภา
ขุนนาง เกิดขึ้นตามธรรมชาติมิใช่มาจากการเสแสร้งโดยผ่านการศึกษาอบรมกล่อมเกลา
อคติในที่นี้จึงหมายถึงเหตุผล่วนรวมอันเป็นสมบัติของชาติที่สืบทอดมาหลายยุคหลายสมัยเหตุผลส่วนรวมจึงเป็นผลรวมของ
การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาของการเมืองที่พิสูจน์มาแล้วว่าใช้ได้ผล
และยึดถือสืบทอมาจนถึงปัจจุบันและไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงธรรมเนียมการแก้ปัญหาที่มีมาแต่เดิมการสนับสนุนอคติของเบอร์กจึงมิได้เป็นการสนับสนุน ที่ให้ทิ้งเหตุผล
แต่เป็นการสนับสนุนให้ยึดถือธรรมเนียมในการแก้ปัญหาทางการเมืองซึ่งเป็นผลรวมของการใช้เหตุผลของคนจำนวนหนึ่ง
ผลของความหายนะของการปฏิวัติ
คือ การจลาจลวุ่นวายเพราะเป็นการทำลายระบบเก่า
ทำให้ขาดแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองอย่างถูกต้อง
*การใช้หลักการแบบนามธรรม
เป็นผลมาจากการใช้เหตุผลที่ไม่ถูกต้อง
ไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริงหรือธรรมเนียมเดิม
ดังนั้น หลักการเช่นนี้ย่อมเป็นหลักการที่ห่างไกลความเป็นจริง
ไม่อาจนำมาใช้กับสภาพความเป็นจริงได้ การปฏิวัติล้มล้างระบบเก่า เช่น การปฏิวัติในฝรั่งเศสใช้หลักการเช่นนี้เป็นแนวทาง
ย่อมนำไปสู่ผลปฏิวัติที่ไม่เป็นไปตามอุดมคติ ในเมื่อแนวทางเก่าถูกทำลาย และแนวทางใหม่ไม่อาจนำมาใช้ให้ได้ผลที่ต้องการ
ความวุ่นวายย่อมเกิดขึ้น โดยมีความหายนะเป็นผลสุดท้าย
*แนวทางที่ถูกต้องในการเปลี่ยนแปลงสังคม ในทรรศนะของเบอร์ก
การปฏิวัติจะเป็นสิ่งที่ชอบธรรมก็ต่อเมื่อกระทำลงไปเพื่อรักษาธรรมเนียมทางการเมืองที่มีมาแต่เดิม
หรือบูรณะสังคมให้คืนสภาพเดิม
ดังนั้นวิธีการเปลี่ยนแปลงสังคมที่ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติหรือการปฏิรูป
ก็คือ การบูรณะให้ดีอย่างเดิม หรือการปกป้องรักษาธรรมเนียมเก่าเอาไว้
*ความคงเส้นคงวาของทรรศนะของเบอร์ก
ทรรศนะของเบอร์กต่อการจัดการกับความเปลี่ยนแปลง คือ การประนีประนอม
เพื่อรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมซึ่งล้วนแล้วเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม เช่น
กรณีการเรียกร้องของชาวอเมริกันในขณะเป็นอาณานิคมต่ออังกฤษ แต่รัฐสภาอังกฤษไม่มีการประนีประนอม
ทำให้ชาวอเมริกันต่อสู้เพื่อแยกตัวเป็นเอกราช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น